วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นวัตกรรมสบู่glycerin refreshbrand soap กับ SLES

    สารเคมีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะถูกเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อเพิ่มคุณสมบัติบางอย่าง เช่น ทำให้เกิดฟอง ขจัดสิ่งสกปรก เป็นต้น ซึ่งสารเคมี 2 ชนิดที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากในการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก และเป็นสิ่งพ่อแม่ควรรู้คือ (SLS) Sodium Lauryl Sulfate และ (SLES)Sodium Laureth Sulfate


Sodium Lauryl Sulfate - SLS

        ฟังก์ชันการทำงานหลักของสารนี้คือทำงานเป็นสารลดแรงตึงผิว (โดยทั่วไปเรามักพบสารลดแรงตึงผิวในผลิตภัณฑ์ซักล้าง เพราะจะทำให้น้ำมีความตึงผิวลดลง จึงสามารถแทรกซึมเข้าไปยังเนื้อผ้าหรือวัสดุที่ต้องการล้างได้ดีขึ้น) แต่สำหรับเครื่องสำอาง นิยมนำมาใช้เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้น (เพราะทำให้น้ำมีแรงตึงผิวลดลงจึงเข้าไปสัมผัสกับผิวหนังได้ดีขึ้น), ใช้เป็น Emulsifier (สารที่ทำให้น้ำกับน้ำมันเข้ากันได้ดี), หรือใช้เป็น ตัวทำละลาย

SLS เป็นสารทำความสะอาดที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้มากที่สุดตัวหนึ่ง ซึ่งมักพบได้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิด ในความเป็นจริงแล้ว สารตัวนี้ถูกจัดให้เป็นสารมาตรฐานในการทดสอบระดับการระคายเคืองของผิวหนัง โดยในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ถ้าต้องการทราบว่าสารเคมีชนิดใด ก่อให้เกิความระคายเคืองต่อผิวหนัง ผู้ทดลองจะเปรียบเทียบผลที่เกิดขึ้นโดยใช้สารนั้น เทียบกับการใช้สาร SLS (ในการทดสอบบนผิวหนังชนิดเดียวกัน) สาร SLS ปริมาณ 2% - 5% สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ในคนกลุ่มใหญ่

Sodium Laureth Sulfate (Sodium Lauryl Ether Sulfate) - SLES


        SLES เป็นสารสกัดจากมะพร้าว ถูกใช้เป็นสารทำความสะอาด ซักล้างเป็นหลัก สารนี้ ได้รับการพิจารณาว่ามีความอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ และใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ล้างหน้า อาบน้ำ หรือแชมพูสระผม) แม้ว่าชื่อจะคล้ายกัน แต่ SLS ต่างกับ SLES โดยสิ้นเชิง สาร SLES เป็นสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนกว่าเนื่องจากเป็นสารประกอบที่เกิดจาก Fatty Alcohol หลายๆ ชนิด ความปลอดภัยของสาร SLES นี้ได้ถูกรีวิวโดยหลากหลายผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้

SLS และ SLES เป็นสารเคมีที่สกัดจากน้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาลม์ (Palm Kernel Oil) หรือแอลกอฮอล์ (จากการกลั่นน้ำมันปิโตเลี่ยม) และผ่านกระบวนแยกและเติมสารต่างๆ ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติที่คล้ายกันคือ ทำให้เกิดฟอง ขจัดน้ำมันออกจากผิวหนัง เส้นผม หรือฟัน เราจะพบสารเคมีเหล่านี้ ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างรถ รวมไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั่วไป เช่น แชมพูสระผม สบู่อาบน้ำ น้ำยาซักผ้า
         ข้อแตกต่างระหว่างสาร SLS และ SLES คือ รายงานจาก Journal of The American College of Toxicology พบว่า สาร SLS แม้ใช้ในปริมาณความเข้มข้นต่ำก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ โดยความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารนี้ในผลิตภัณฑ์ และระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์สัมผัสร่างกาย ซึ่งมักจะทำให้เกิดความระคายเคืองมาก โดยเฉพาะเมื่อเข้าตา หรือเมื่อใช้กับผิวหนังที่บอบบางจะเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง หรือลุกลามรุนแรงได้
ในขณะที่ สาร SLES พบว่าทำให้เกิดอาการระคายเคืองน้อยกว่ามาก เพราะมีกระบวนการผลิตที่ดีและซับซ้อนกว่ามาก สารชนิดนี้จึงนิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมากกว่า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก กลุ่มที่เป็นสบู่สำหรับเด็ก ผิวแพ้ง่าย สบู่รักษาสิว  REFRSHBRAND soap รักษากลิ่นกาย ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าสารทั้งสองชนิดนี้ก่อมะเร็งได้ แต่ก็ยังไม่มีรายงายวิจัยชิ้นใดระบุว่าสามารถก่อมะเร็งในผู้ใช้ นอกเสียจากว่าสารทั้งสองชนิดนี้จะได้รับการปนเปื้อนมากัน 1.4 Dioxane ที่เป็นสารก่อมะเร็งในขั้นตอนการผลิต ผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่ปัจจุบันกระบวนการผลิตสารทำความสะอาดสามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนนี้ได้ด้วยการใช้ระบบสูญญากาศ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีสารก่อมะเร็งอย่างแน่นอน
เมื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้สารในผลิตภัณฑ์เด็ก ยังพบสาร Triclosan, สาร Polyethylene, สาร Synthetic Polymers, สาร Paraben นำมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต ผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอนุญาตให้ใช้สารเหล่านี้เป็นวัตถุกันเสียที่ความเข้มข้นไม่เกิน 0.3% ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคตามมาตรฐานสากล จึงขอให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์เด็ก อย่าได้ตื่นตระหนกกลัวตามที่เป็นข่าว

ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยกับ refeshbrand by เภสัชกร อธิราช
http://www.refreshbrands.org/

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน นั้นต่างกันอย่างไร

อยากรู้ไหมว่า... สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน นั้นต่างกันอย่างไร
สบู่ใครๆก็รู้จัก แต่เคยสงสัยไหมว่าสบู่ที่คุณใช้นั้น มันคือสบู่ประเภทไหน ทำมาจากอะไร เพราะปัจจุบัน สบู่ นั้นมีหลากหลายรูปแบบ สีสัน สวยงาม มีทั้งแบบใส แบบขุ่น แล้วตกลงมันเรียกว่าอะไรหล่ะ วันนี้ refreshbrand  จะมาไขข้อข้องใจให้คุณๆได้รู้กัน...
สบู่ทั่วไป


       เป็นสบู่ที่ผลิตเชิงอุตสาหกรรมโดยใช้เครื่องจักรเป็นหลัก เพื่อผลิตให้ได้ปริมาณมาก โดยการนำเกล็ดสบู่ หรือที่เรียกกันว่า Soap Noodle หรือ Soap Chip มาเติมสารบำรุงผิว ซึ่งมักเป็นสารเคมี และน้ำหอม ลักษณะของเนื้อสบู่ที่ได้จะมีความแข็ง จึงสามารถนำมาปั๊มขึ้นรูปได้ จึงมักมีรูปก้อนสบู่ที่สวยงาม น่าใช้ มีหลากหลายยี่ห้อตามท้องตลาด ราคาไม่แพงมาก
สบู่กลีเซอรีน

                    เป็นสบู่ที่ใช้วิธีการผลิต โดยการทำปฏิกริยากันระหว่างน้ำมันกับสารละสายด่าง  ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เกิดกลีเซอรีนธรรมชาติอยู่ในตัวสบู่ และกลีเซอรีนนี้เองที่เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังสามารถเติมสารธรรมชาติอื่น ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าในการบำรุงผิวเพิ่มมากขึ้นได้ตามต้องการ  ลักษณะของเนื้อสบู่ที่ได้มักจะนิ่ม และละลายน้ำง่าย การปั๊มขึ้นรูปของสบู่จึงทำได้ยาก จึงมักจะมีรูปทรงธรรมดาเช่น สี่เหลี่ยมหรือวงกลม  นอกจากนั้นคุณค่าของสบู่ที่มีต่อผิวยังขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่เลือกใช้ ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดกันจะมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน เช่นสบู่ brand ดังต่างๆ สบู่สำหรับผิวแห้ง สบู่รักษาผิวแพ้ง่าย  สบู่ระงับกลิ่นกาย refreshbrand   สบู่กลุ่มรักษาสิว ราคาจะสูงกว่าสบู่ทั่วไป เน้นใช้ในกลุ่มเวชสำอางค์ หรือยา

กลีเซอรีน (Glycerin) คืออะไร
                  สบู่กลีเซอรีน เป็นสบู่ที่มีกลีเซอรีนเป็นส่วนประกอบสำคัญ และไขมันจากพืช มีทั้งชนิดใสและขาวขุ่น มีคุณสมบัติ คือ กลีเซอรีนเป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน เนื่องจากสบู่ชนิดนี้มีส่วนผสมของกลีเซอรีนค่อนข้างมาก จึงมีความนิ่มกว่าสบู่ในท้องตลาดทั่วไป ราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเปรียบเทียบคุณสมบัติกับสบู่ทั่วไปก็นับว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
นอกจากกลีเซอรีนที่ได้จากการผลิตสบู่ Handmade จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว การเลือกใช้น้ำมันก็มีผลต่อคุณภาพของสบู่ต่อผิวด้วย
1. น้ำมันมะพร้าว สบู่ที่ผลิตได้มีเนื้อแข็ง กรอบ แตกง่าย สีขาวข้น มีฟองมากเป็นครีม ให้ฟองที่คงทนพอควร เมื่อใช้แล้วทำให้ผิวแห้ง
2. น้ำมันปาล์ม ให้สบู่ที่แข็งเล็กน้อย มีฟองน้อย ฟองคงทนอยู่นาน มีคุณสมบัติในการชะล้างได้ดี แต่ทำให้ผิวแห้ง
3. น้ำมันรำข้าว ให้วิตามินอีมาก ทำให้สบู่มีความชุ่มชื้น บำรุงผิว ช่วยลดความแห้งของผิว
4. น้ำมันถั่วเหลือง เป็นน้ำมันที่เข้าได้ดีกับน้ำมันอื่น มีวิตามินอีสูง ให้ความชุ่มชื้น ถนอมผิว รักษาผิว
5. น้ำมันงา เป็นน้ำมันที่ให้วิตามินอี และให้ความชุ่มชื้น รักษาผิว แต่มีกลิ่นเฉพาะตัว
6. น้ำมันมะกอก ทำให้ได้สบู่ที่แข็งพอสมควร ใช้ได้นาน มีฟองเป็นครีมนุ่มนวลมาก ให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้ง
7. น้ำมันละหุ่ง ช่วยทำให้สบู่มีฟองขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้สบู่เป็นเนื้อเดียวกันดี สบู่ไม่แตก ทำให้สบู่มีความนุ่มเนียน และช่วยให้ผิวนุ่ม
8. น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ทำให้สบู่นุ่มขึ้น แต่ฟองน้อย
สบู่refreshbrandกลีเซอรีนระงับกลิ่นกาย (ในรูปแบบกลีเซอรีน)
                สบู่ที่ผลิตในรูปแบบของกลีเซอรีนจากน้ำมันถั่วเหลือง หลังจากสกัดเป็นน้ำมันแล้วนั้นมีวิตามินอีสูง ที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ช่วยถนอมผิว สบู่refreshbrand ยังอุดมด้วยวิตามินและสารสกัดที่ทรงคุณค่าต่อการดูแลผิว ช่วยทำความสะอาดผิวพร้อมไปกับการบำรุงผิวให้สะอาด เกลี้ยงเกลา นุ่มชุ่มชื้น แลดูขาว เรียบเนียน หลังการใช้ระงับกลิ่นกาย ช่วยปรับสีผิวให้ขาวด้วย vitamin B3  ผสานกับ สารสกัด tarmarid  และสารสกัดจาก ginger  ให้ผิวขาวแล้วขาวอีก ขาวอมชุมพู มีน้ำมีนวล ทั้งยังบำรุงผิวด้วยสารสกัดจากทัมทิม ที่มี Super Anti Oxidant ที่สุดของการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดริ้วรอยความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ลดการอักเสบของสิว กระตุ้นการสร้างคลอลาเจนใต้ชั้นผิวให้ผิวเต่งตึง ผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่เนียนเรียบ นุ่ม ชุ่มชื้น ดูขาวใส เปล่งปลั่ง อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์ดีๆแนะนำ by เภสัชกร อธิราช

http://www.refreshbrands.org/