วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน นั้นต่างกันอย่างไร

อยากรู้ไหมว่า... สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน นั้นต่างกันอย่างไร
สบู่ใครๆก็รู้จัก แต่เคยสงสัยไหมว่าสบู่ที่คุณใช้นั้น มันคือสบู่ประเภทไหน ทำมาจากอะไร เพราะปัจจุบัน สบู่ นั้นมีหลากหลายรูปแบบ สีสัน สวยงาม มีทั้งแบบใส แบบขุ่น แล้วตกลงมันเรียกว่าอะไรหล่ะ วันนี้ refreshbrand  จะมาไขข้อข้องใจให้คุณๆได้รู้กัน...
สบู่ทั่วไป


       เป็นสบู่ที่ผลิตเชิงอุตสาหกรรมโดยใช้เครื่องจักรเป็นหลัก เพื่อผลิตให้ได้ปริมาณมาก โดยการนำเกล็ดสบู่ หรือที่เรียกกันว่า Soap Noodle หรือ Soap Chip มาเติมสารบำรุงผิว ซึ่งมักเป็นสารเคมี และน้ำหอม ลักษณะของเนื้อสบู่ที่ได้จะมีความแข็ง จึงสามารถนำมาปั๊มขึ้นรูปได้ จึงมักมีรูปก้อนสบู่ที่สวยงาม น่าใช้ มีหลากหลายยี่ห้อตามท้องตลาด ราคาไม่แพงมาก
สบู่กลีเซอรีน

                    เป็นสบู่ที่ใช้วิธีการผลิต โดยการทำปฏิกริยากันระหว่างน้ำมันกับสารละสายด่าง  ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เกิดกลีเซอรีนธรรมชาติอยู่ในตัวสบู่ และกลีเซอรีนนี้เองที่เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังสามารถเติมสารธรรมชาติอื่น ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าในการบำรุงผิวเพิ่มมากขึ้นได้ตามต้องการ  ลักษณะของเนื้อสบู่ที่ได้มักจะนิ่ม และละลายน้ำง่าย การปั๊มขึ้นรูปของสบู่จึงทำได้ยาก จึงมักจะมีรูปทรงธรรมดาเช่น สี่เหลี่ยมหรือวงกลม  นอกจากนั้นคุณค่าของสบู่ที่มีต่อผิวยังขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่เลือกใช้ ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดกันจะมีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน เช่นสบู่ brand ดังต่างๆ สบู่สำหรับผิวแห้ง สบู่รักษาผิวแพ้ง่าย  สบู่ระงับกลิ่นกาย refreshbrand   สบู่กลุ่มรักษาสิว ราคาจะสูงกว่าสบู่ทั่วไป เน้นใช้ในกลุ่มเวชสำอางค์ หรือยา

กลีเซอรีน (Glycerin) คืออะไร
                  สบู่กลีเซอรีน เป็นสบู่ที่มีกลีเซอรีนเป็นส่วนประกอบสำคัญ และไขมันจากพืช มีทั้งชนิดใสและขาวขุ่น มีคุณสมบัติ คือ กลีเซอรีนเป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน เนื่องจากสบู่ชนิดนี้มีส่วนผสมของกลีเซอรีนค่อนข้างมาก จึงมีความนิ่มกว่าสบู่ในท้องตลาดทั่วไป ราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเปรียบเทียบคุณสมบัติกับสบู่ทั่วไปก็นับว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
นอกจากกลีเซอรีนที่ได้จากการผลิตสบู่ Handmade จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว การเลือกใช้น้ำมันก็มีผลต่อคุณภาพของสบู่ต่อผิวด้วย
1. น้ำมันมะพร้าว สบู่ที่ผลิตได้มีเนื้อแข็ง กรอบ แตกง่าย สีขาวข้น มีฟองมากเป็นครีม ให้ฟองที่คงทนพอควร เมื่อใช้แล้วทำให้ผิวแห้ง
2. น้ำมันปาล์ม ให้สบู่ที่แข็งเล็กน้อย มีฟองน้อย ฟองคงทนอยู่นาน มีคุณสมบัติในการชะล้างได้ดี แต่ทำให้ผิวแห้ง
3. น้ำมันรำข้าว ให้วิตามินอีมาก ทำให้สบู่มีความชุ่มชื้น บำรุงผิว ช่วยลดความแห้งของผิว
4. น้ำมันถั่วเหลือง เป็นน้ำมันที่เข้าได้ดีกับน้ำมันอื่น มีวิตามินอีสูง ให้ความชุ่มชื้น ถนอมผิว รักษาผิว
5. น้ำมันงา เป็นน้ำมันที่ให้วิตามินอี และให้ความชุ่มชื้น รักษาผิว แต่มีกลิ่นเฉพาะตัว
6. น้ำมันมะกอก ทำให้ได้สบู่ที่แข็งพอสมควร ใช้ได้นาน มีฟองเป็นครีมนุ่มนวลมาก ให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้ง
7. น้ำมันละหุ่ง ช่วยทำให้สบู่มีฟองขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้สบู่เป็นเนื้อเดียวกันดี สบู่ไม่แตก ทำให้สบู่มีความนุ่มเนียน และช่วยให้ผิวนุ่ม
8. น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ทำให้สบู่นุ่มขึ้น แต่ฟองน้อย
สบู่refreshbrandกลีเซอรีนระงับกลิ่นกาย (ในรูปแบบกลีเซอรีน)
                สบู่ที่ผลิตในรูปแบบของกลีเซอรีนจากน้ำมันถั่วเหลือง หลังจากสกัดเป็นน้ำมันแล้วนั้นมีวิตามินอีสูง ที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ช่วยถนอมผิว สบู่refreshbrand ยังอุดมด้วยวิตามินและสารสกัดที่ทรงคุณค่าต่อการดูแลผิว ช่วยทำความสะอาดผิวพร้อมไปกับการบำรุงผิวให้สะอาด เกลี้ยงเกลา นุ่มชุ่มชื้น แลดูขาว เรียบเนียน หลังการใช้ระงับกลิ่นกาย ช่วยปรับสีผิวให้ขาวด้วย vitamin B3  ผสานกับ สารสกัด tarmarid  และสารสกัดจาก ginger  ให้ผิวขาวแล้วขาวอีก ขาวอมชุมพู มีน้ำมีนวล ทั้งยังบำรุงผิวด้วยสารสกัดจากทัมทิม ที่มี Super Anti Oxidant ที่สุดของการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดริ้วรอยความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ลดการอักเสบของสิว กระตุ้นการสร้างคลอลาเจนใต้ชั้นผิวให้ผิวเต่งตึง ผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่เนียนเรียบ นุ่ม ชุ่มชื้น ดูขาวใส เปล่งปลั่ง อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์ดีๆแนะนำ by เภสัชกร อธิราช

http://www.refreshbrands.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น