วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

คอลลาเจน แก้ริ้วรอยทำให้ดูสาวขึ้น

คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหลายชนิดในสัตว์ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฉะนั้นจึงเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย โดยคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนทั้งร่างกาย ส่วนใหญ่พบคอลลาเจนในรูปเส้นใยฝอยยืดในเนื้อเยื่อเส้นใย (fibrous tissue) เช่น เอ็นกล้ามเนื้อ (tendon) เอ็น (ligament) และผิวหนัง ทั้งพบมากในกระจกตา กระดูกอ่อน กระดูก หลอดเลือด ทางเดินอาหารและหมอนกระดูกสันหลัง เซลล์สร้างเส้นใย (fibroblast) เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนมากที่สุด
ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มใยกล้ามเนื้อ (endomysium) คอลลาเจนประกอบเป็น 1% ถึง 2% ของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเป็น 6% ของน้ำหนักกล้ามเนื้อมีเอ็นที่แข็งแรง เจลาติน ซึ่งใช้ในอาหารและอุตสาหกรรม เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการสลายด้วยน้ำ (hydrolysis) แบบย้อนกลับไม่ได้

ลักษณะ
คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่ว ๆ ไปเช่นแดียวกับเอนไซม์ เส้นใยคอลลาเจนมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มาก จึงมีแรงสปริงและยืดหยุ่นดีตามไปด้วย คอลลาเจนนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น อวัยวะภายในร่างกาย ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน, เอ็น, เอ็นกล้ามเนื้อและกระดูก คอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน
เคราตินมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวลดลง จึงเกิดริ้วรอย (wringkle) บนชั้นผิว, นอกจากนี้ เคราตินมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ รวมทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อกระจกตาและเลนส์ตาด้วย


การนำ collagen มาใช้ประโยชน์

เมื่อคอลลาเจนผ่านการสลายด้วยน้ำคอลลาเจนจะแตกตัวออกเป็นสารเชิงซ้อนของคอลลาเจนเปปไทด์แบบ Polyproline II (PPII) หรือเจลาติน นอกจากการใช้เป็นอาหารแล้ว คอลลาเจนยังใช้เป็นส่วนประกอบของยา เครื่องสำอาง และฟีล์มถ่ายภาพเมื่อพิจารณาในแง่ของอุตสาหกรรมอาหารแล้ว สารคอลลาเจนไม่ได้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
 คอลลาเจน คือ เส้นใยโปรตีน เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูกอ่อน กระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวกันต่างๆ คอลลาเจนเป็น ส่วนประกอบหลักของเครือข่ายชั้นผิวหนังมากกว่า 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกาย คือ คอลลาเจน จัดเป็นจำนวนที่สูงมากและเป็น 70 % ของผิวหนังคนเราผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ผิวหนังประกอบด้วยชั้นผิว 3 ชั้น ชั้นแรก คือ หนังกำพร้าเป็นหนังส่วนที่อยู่นอกสุดของชั้นผิวหนัง ประกอบด้วยเซลล์ที่เรียกว่า epithelial cells ชั้นถัดมา คือ ชั้นที่อยู่ต่ำกว่าชั้นหนังกำพร้าลงไป ประกอบด้วยเส้นเลือด ต่อมน้ำเหลือง ต่อมเหงื่อ ต่อมขนและต่อมไขมันเป็นต่อมที่ผลิตไขมันเพื่อป้องกันแบคทีเรีย ชั้นที่สามเป็นชั้นที่สนับสนุนการทำงานของชั้นเนื้อเยื่อไมัน ผิวหนังจะยัง คงความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นตราบเท่าที่ยังคงรักษาความชุ่มชื้น ได้มากกว่า 10 % ถ้าผิวหนังแห้งมากจะมีลักษณะบวมแดง อักเสบ ผิวหนังชั้นหนอกจะมีลักษณะหยาบ เปราะบาง ไม่สดใส จึงต้องใช้โลชันและครีมบำรุงผิวเป็นตัวช่วยในการรักษาความชุ่มชื้น ในชั้นที่ต่ำกว่าชั้นผิวหนังชั้นนอกสุดจะเสื่อมสภาพไปตามอายุ ซึ่งไม่ใช่ขาดเฉพาะความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลดลงของ Polypeptides เช่น Elastin และคอลลาเจน

Skin-structures.jpg
         
          เมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนจะเสื่อมสลาย และมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง เป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย เช่น รอยตีนกา กล้ามเนื้อรอบดวงตาเหี่ยวย่นผู้หญิงแก่ง่ายกว่าผู้ชาย อัตราการลดลงอย่างต่อเนื่องของคอลลาเจน ในผิวหนังชั้นหนังแท้ จะมีผลให้ผิวพรรณค่อยๆ สูญเสียความชุ่มชื้น นุ่มเนียนและยืดหยุ่น ผิวที่เคยสวยเต่งตึง นุ่มนวล ค่อยๆ แห้งกร้าน ผิวจะยุบตัวลงทุกปีทุกปีทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและตีนกา กว่าคุณจะอายุ 45 ปี ระดับคอลลาเจนในชั้นผิวลดลงไปแล้วกว่า 30%
ที่มาคำว่า collagen 
คำว่า Collagen (คอลลาเจน) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกจากคำว่า “Kolla” ที่แปลว่า กาว โดยเมื่อก่อนได้มีการทำกาวโดยการนำหนังและเอ็นม้ามาเคี่ยวจนกลายเป็นกาว ตามหลักฐานที่พบมีการใช้งานกาวลักษณะนี้มากว่า 8000 ปีแล้ว โดยใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเชือกและตะกร้าสานเพื่อให้มีความแข็งแรง และมีการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป กาวชนิดนี้เมื่อแห้งแล้วสามารถทำให้อ่อนนิ่มได้อีกโดยการให้ความร้อน เพราะกาวจากสิ่งมีชีวิตเป็นเทอร์โมพลาสติก ชนิดหนึ่งจึงมีการใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะการผลิกเครื่องดนตรีเช่น ไวโอลีน กีตาร์ แม้กระทั่งเมื่อมนุษย์สามารถผลิตพลาสติกสังเคราะห์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีการใช้งานกาวเจลาตินอยู่ทั่วไป

ลักษณะการนำมาใช้ทางการแพทย์

มีการใช้คอลลาเจนในศัลยกรรมเสริมสวยอย่างแพร่หลาย โดยเป็นการช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยแผลไหม้เพื่อสร้างกระดูกใหม่ ทั้งยังใช้ในจุดประสงค์ทางทันตกรรม ออร์โทพีดิกส์และศัลยกรรมอื่นอีกมาก พบใช้ทั้งคอลลาเจนมนุษย์และวัวเป็นสารเติมเข้าผิวหนังเพื่อรักษารอยย่นและการเปลี่ยนตามวัยของผิวหนังได้

ก้าวล้ำทันนวัตกรรมความงามกับ refreshbrands  BY เภสัชกรอธิราช
http://www.refreshbrands.org/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น